Placenta Therapy

RGF หรือ Human Placenta Extract คืออะไร ?

พลาเซนต้า หรือ รกเป็นตัวกลางระหว่างแม่และทารกในครรภ์ทำหน้าที่นำสารอาหารและออกซิเจนไปสู่ทารก ที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตของทารก RGF (Regu Growth Factor) หรือ Human Placenta Extract เป็นสารประกอบจากรกที่อุดมไปด้วยสารอาหารต่างๆ เอนไซม์ เปปไทด์ โพลีดีออกซี่นิวคลีโอไทด์ (Polydeoxynucleotides: PDRN) วิตามิน กรดอะมิโน ไซโตไคน์ต่างๆ ที่กระตุ้นระบบภูมิคุ้มกัน และต้านการอักเสบ นอกจากนี้สารสกัดพลาเซนต้ายังประกอบไปด้วย โกรทแฟคเตอร์ (growth factors) และฮอร์โมนต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของทารก สารประกอบเหล่านี้จึงมีต่อการกระตุ้นการเจริญ และแบ่งตัวของเซลล์ผู้ใหญ่ได้เช่นกัน ทำให้การซ่อมแซมเซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ ได้ดี

Placenta Therapy คือ การประยุกต์ใช้สารประกอบจากรกเพื่อการฟื้นฟูรักษาสุขภาพและความงามได้หลากหลาย เช่น Mesotherapy กับผิวหน้า หรือ ลำคอ และหนังศรีษะเพื่อกระตุ้นเซลล์ผิวหนังในชั้นต่างๆ และการสร้างคอลลาเจน อีลาสติน การงอกของเส้นผม การฉีดเข้ากล้ามเนื้อเพื่อปรับสมดุลของระบบฮอร์โมนในผู้หญิงและผู้ชายเมื่อวัยสูงขึ้นและมีอาการวัยทอง จากรายงานการวิจัยพบว่า สารสกัดพลาเซ็นต้า หรือ RGF มีฤทธิ์ต่างๆ ดังนี้

· มีฤทธิ์ต้านการอักเสบและลดอาการปวด

สารสกัดจากรกมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและต้านการอักเสบ รวมทั้งลดอาการปวด ปกป้องกันเซลล์เม็ดเลือดแดง และเซลล์อื่นๆ รวมทั้งสามารถขจัดสารพิษออกจากร่างกาย เนื่องจากมีสาร Interleukine-1 (IL-1) Interleukine-2 (IL-2) Interleukine-4 (IL-4) และ Interleukin-10 (IL-10) Prostaglandin E2 (PGE2)

· มีฤทธิ์ต้านสารอนุมูลอิสระ

สารสกัดจากรกมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน ทำให้ผิวสว่างใสมีความยืดหยุ่น และฟื้นฟูสภาพผิวได้เป็นอย่างดีเนื่องจากสารสกัดจากรกมี Epidermal Growth Factor (FGF) Tumor Growth Factor-β (TGF-β) และ Collagenous Matrix

· มีฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกัน

สารสกัดจากรกมี Cytokines ที่กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน เช่น IL-1 IL-2 IL-4 IL-10 G-CSF และ GM-CSF

· มีฤทธิ์ต้านเชื้อจุลินทรีย์

สารสกัดจากรกมีโปรตีน H2A และ H2B ทำหน้าที่เป็น Barrier ป้องกัน Microorganism ต่างๆ ได้ดี

· มีฤทธิ์สมานแผล

รายงานวิจัยผลของสารสกัดจากรกมีฤทธิ์รักษาแผลหายอย่างรวดเร็วและเพิ่มการไหลเวียนของเลือด เนื่องจากมี Placenta Growth Factor (PIGF) Vascular Epithelial Growth Factor (VEGF) และ Growth Factors ต่างๆ ที่มีผลต่อการกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดและกระตุ้นการเจริญของเซลล์ต่างๆ รวมทั้งฟื้นฟูสภาพผิวหนัง

· มีฤทธิ์กระตุ้นการงอกของเส้นผม

Human Placenta Extract ไปเพิ่ม Keratinocyte Growth Factor หรือ FGF-7 ซึ่งมีฤทธิ์กระตุ้น Hair Follicle และเพิ่มจำนวนของเซลล์ ทำให้เกิดการงอกใหม่ของเส้นผม

· ช่วยในการปรับสมดุลของฮอร์โมน

สารสกัดจากรกอุดมไปด้วยฮอร์โมนเพศและฮอร์โมน อื่นๆ เช่น Growth Hormone ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนลดอาการวัยทอง และชะลอวัยได้เป็นอย่างดี

· มีฤทธิ์กระตุ้นการแบ่งตัวและการเจริญของเซลล์ต่าง

สารสกัดจากรกอุดมไปด้วย Growth Factors ชนิดต่างๆ ที่กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ เช่น FGF EGF และ VEGF

· มีฤทธิ์กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน

กระตุ้นการแบ่งตัวและการเจริญเติบโตของเซลล์ต่างๆ รวมทั้งเสริมสร้างคอลลาเจน กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์เนื้อเยื่อช่วยส่งเสริมการหายของบาดแผล และต่อต้านการอักเสบ

ผลการวิจัยทางคลินิกพบว่า การใช้ Human Placenta Extract ฉีดเข้าทาง Subcutaneous เข้ากล้ามเนื้อ และทางฉีดเข้าหลอดเลือดดำ ในกลุ่มอาการอ่อนเพลียเรื้องรัง (Chronic Fatigue Syndrome) กลุ่ม Menopause พบว่าสารสกัดจากพลาเซ็นต้าช่วยลดอาการวัยทองในผู้หญิง ลดอาการอ่อนเพลียและลดอาการวิตกกังวล ซึมเศร้าภายใน 5-6 สัปดาห์

RGF เป็นสารสกัดจากพลาเซ็นต้า ที่ได้พัฒนามาเป็นสารสกัดพลาเซ็นต้า 4 ชนิดที่มีสารประกอบต่างๆ แตกต่างกัน ดังนี้

• RGF for Men’s Health สำหรับผู้ชายวัยทองที่มีปัญหาด้านสุขภาพและผิวพรรณ

• RGF for Women’s Health สำหรับผู้หญิงวัยทองที่มีปัญหาด้านสุขภาพและผิวพรรณ

• RGF for Skin and Beauty สำหรับกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และผิวพรรณ

• Lejou Growth Factor (Lyophilized) สำหรับกลุ่มวัยเจริญพันธุ์ที่มีปัญหาด้านสุขภาพ และผิวพรรณ

มาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัย (Quality Quality and Safety)

ผลิตภัณฑ์ RGF ได้มาตรฐานสูงสุดในเรื่องความปลอดภัย มีการตรวจสอบโรคติดเชื้อต่างๆ เช่น ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) ไวรัสตับอักเสบซี (HCV) เอชไอวี (HIV) และการปนเปื้อนเชื้อต่างๆ เช่น เชื้อรา แบคทีเรีย และไมโครพลาสมา รวมทั้งระดับ Endotoxin กระบวนการผลิตดำเนินการในห้องสะอาดปราศจากเชื้อ (Cleanroom Class 10,000) ภายใต้ข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา รวมทั้งห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานการรับรอง ISO 15189:2012 และ 15190:2003. ในกระบวนการผลิตแต่ละครั้งมีการวัดระดับ Growth Factors และ Hormones รวมทั้งทดสอบความเป็นพิษ มีการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์และอนุมัติโดยคณะกรรมการควบคุณภาพก่อนมีการจำหน่าย

RGF for Men’s Health

เป็นสารสกัดธรรมชาติจากรกที่ไม่มีการกำจัดฮอร์โมนเพศออก จึงมีปริมาณฮอร์โมนสำหรับเพศชายสูงกว่า โดยเฉพาะ Testosterone และ Growth Hormone สารสกัดนี้ยังประกอบไปด้วย Growth Factors ต่างๆ ฮอร์โมนเพศ รวมทั้งสารประกอบอื่นๆ เช่นเดียวกับ RGF for Skin and Beauty ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ชายที่เริ่มเข้าสู่วัยทอง ที่ต้องการรักษาสุขภาพ เส้นผมและผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยให้ดีขึ้น

RGF for Women’s Health

เป็นสารสกัดธรรมชาติจากรกที่ไม่มีการกำจัดฮอร์โมนเพศออกเช่นเดียวกัน แต่มีปริมาณของฮอร์โมนเพศหญิง Estradiol และ Progesterone รวมทั้ง Growth Hormone มากกว่า นอกจากนี้ยังประกอบไปด้วย Growth Factors และสารประกอบอื่นๆ เช่นเดียวกับ RGF for Skin & Beauty และ RGF for Men’s Health ซึ่งเหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีปัญหาด้านผิวพรรณ เส้นผม และเริ่มเข้าสู่วัยทอง ที่ต้องการรักษาสุขภาพและผิวพรรณที่เปลี่ยนแปลงไปตามวัยให้ดีขึ้น

RGF for Skin & Beauty และ Lejuo Growth Factor (Lyophilized)

มีการกำจัดฮอร์โมนต่างๆ ออกให้เหลือน้อยที่สุดด้วยวิธีที่ปลอดภัยไม่ใช้สารเคมี ในผลิตภัณฑ์นี้ประกอบนี้ไปด้วย Growth Factors หลากหลายชนิด Cytokines, Peptides, Proteins, Enzymes, Vitamins และ Minerals รวมทั้งสารประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นและมีประโยชน์ต่อการซ่อมแซมเซลล์ผิวหนัง และเซลล์ร่างกาย ช่วยในการชะลอวัย เหมาะสำหรับวัยหนุ่มสาวที่มีปัญหาด้านผิวพรรณ และสุขภาพ

อาการของวัยทองเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความชรา ซึ่งเกิดจากระดับฮอร์โมนเพศที่เปลี่ยนแปลงไป ระดับฮอร์โมนเพศที่เพียงพอมีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพ มีรายงานการศึกษามากมายยืนยันว่าผู้ที่มีที่มีระดับฮอร์โมนเพศต่ำมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น

ผลการใช้ในด้านสุขภาพและความงาม

ผิวพรรณละเอียด รูขุมขนกระชับ ขาวใสมากขึ้น ลดการสร้างเม็ดสีบนผิวหน้าและผิวกาย ลดกระ ช่วยให้ผิวพรรณมีเลือดฝาด จากการกระตุ้นการสร้างหลอดเลือดและเส้นประสาท ส่งเสริมการหายของแผลต่างๆ รวมทั้งโรคผิวหนังเรื้อรัง

ประโยชน์ในด้านการรักษา

• ช่วยให้การทำงานของตับดีขึ้น

• ป้องกันการเกิดภูมิแพ้

• ช่วยส่งเสริมระบบไหลเวียนโลหิต

• ส่งเสริมและกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

• ส่งเสริมการทำงานของระบบประสาท

• มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ

• ช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อในร่างกาย

• ช่วยควบคุมความดันโลหิต

• ลดความอ่อนล้าของกล้ามเนื้อ

• ช่วยลดอาการวัยทองของผู้ชาย

• ช่วยลดอาการวัยทองของผู้หญิง

ข้อบ่งใช้ในผู้ชายเริ่มเข้าสู่วัยทอง

• อ่อนเพลียเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome)

• หงุดหงิดง่าย ซึมเศร้า

• น้ำหนักเพิ่ม ผมร่วง กล้ามเนื้อไม่ค่อยมี

• ความรู้สึกทางเพศลดลง หย่อนสมรรถภาพทางเพศ

• อาการวูบวาบ เหงื่ออกตอนกลางคืน

• ความจำไม่ดี นอนไม่หลับ อ่อนเพลียไม่มีแรง

ข้อบ่งใช้ในผู้หญิงเริ่มเข้าสู่วัยทอง

• อ่อนเพลียเรื้อรัง (Chronic fatigue syndrome)

• เครียด หงุดหงิด เหนื่อยง่าย

• อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย ซึมเศร้า

• ประจำเดือนมาไม่ปกติ

• อาการร้อนวูบวาบ

• อาการหนาวสั่น

• เหงื่ออกตอนกลางคืน

• มีปัญหาด้านการนอนหลับ

• ความจำไม่ดี หลงลืมง่าย

• น้ำหนักขึ้น

• ผมบาง ผิวแห้ง

รูปที่ 1 ผลของสารสกัดจากรกต่อการฟื้นฟูผิวหนัง (Skin rejuvenation)

References

1. Nair B, Elmore AR (2002) Final report on the safety assessment of human placental protein, hydrolyzed human placental protein, human placental enzymes, human placental lipids, human umbilical extract, placental protein, hydrolyzed placental protein, placental enzymes, placental lipids, and umbilical extract. Int J Toxicol. 21 Suppl 1:81-91.

2. Chakraborty PD and Bhattacharyya D (2012). Aqueous Extract of Human Placenta, Recent Advances in Research on the Human Placenta, Dr. Jing Zheng (Ed.), ISBN: 978-953-51-0194-9, InTech, Available from: http://www.intechopen.com/books/recent-advances-in-research-on-the-humanplacenta/aqueous-extract-of-human-placenta-as-a-therapeutic-agent

3. Kong M and Park SB (2012) Effect of Human Placental Extract on Health Status in Elderly Koreans. Evid Based Complement Alternat Med. 2012; 2012: 732915. doi: 10.1155/2012/732915

4. Lee KK, Whan-Seok Choi WS, Yum KS, Song SW, Ock SM, Park SB, and Kim MJ. (2012) Efficacy and Safety of Human Placental Extract Solution on Fatigue: A Double-Blind, Randomized, Placebo-Controlled Study. Evid Based Complement Alternat Med. 2012; 2012: 130875. doi: 10.1155/2012/130875

5. Choi JY, LeemK, Lee SM, Yoo SH, Hwang SG, Choi,JY., . . . Park, Y. M. (2014). Efficacy and Safety of Human Placental Extract for Alcoholic and Nonalcoholic Steatohepatitis: An Open-Label, Randomized, Comparative Study. Biological and Pharmaceutical Bulletin, 37(12), 1853-1859. doi:10.1248/bpb.b13-00979

6. Park SB, Kim KN, Sung E, Lee SY, & Shin HC. (2016). Human Placental Extract as a Subcutaneous Injection Is Effective in Chronic Fatigue Syndrome: A Multi-Center, Double-Blind, Randomized, Placebo-Controlled Study. Biol Pharm Bull, 39(5), 674-679. doi:10.1248/bpb.b15-00623

7. Kim S, Park HT, Lee BI, Shin JH, Park HM, Kim T. (2013) Comparison of the Efficacy and Safety of the Unicenta and Melsmon Injection for the Menopausal Symptoms. J Korean Soc Menopause. 19(1):36-44. Korean. https://doi.org/10.6118/jksm.2013.19.1.36

8. Pogozhykh, O., Prokopyuk, V., Figueiredo, C., & Pogozhykh, D. (2018). Placenta and Placental Derivatives in Regenerative Therapies: Experimental Studies, History, and Prospects. Stem cells international, 2018, 4837930-4837930. doi:10.1155/2018/4837930

9. Zhang, D., Lijuan, G., Jingjie, L., Zheng, L., Wang, C., Wang, Z., . . . Sung, C. (2011). Cow placenta extract promotes murine hair growth through enhancing the insulin - like growth factor-1. Indian journal of dermatology, 56(1), 14-18. doi:10.4103/0019-5154.77544

Kwon, T., Oh, C.T., Choi, E.J., Park, H.M., Han, H.J., Ji, H.J., & Kim, B.J. (2015). Human placental extract exerts hair growth-promoting effects through the GSK-3β signaling pathway in human dermal papilla cells. International journal of molecular medicine, 36 4, 1088-96.

Erectile Dysfunction and Stem Cell Therapy

การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ( Erectile Dysfunction: ED) คือ การที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว จนสิ้นสุดกิจกรรมร่วมเพศ พบได้ในผู้ชายทุกวัยใด แต่มักจะพบในผู้ที่มีวัยสูงขึ้น ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของโรค คือ มีโรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคหัวใจและความดัน ติดสุราเรื้อรัง สูบบุหรี่จัด ปัญหาทางด้านอารมณ์และจิตใจต่างๆ ที่ทำให้เกิดความเครียด ซึมเศร้า รวมไปถึงการรับประทานยาบางชนิด เช่น ยาแก้โรคซึมเศร้า ยานอนหลับ เป็นต้น

กลไกการแข็งของอวัยวะเพศขึ้นกับ สรีระกายวิภาค ระบบหลอดเลือด (Blood Supply) และระบบประสาทที่ควบคุม (Nerve Supply) ในระยะแรกของการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศมีสาเหตุมาจากการทำงานของ Endothelial Cells ผิดปกติ (Endothelial Cell Dysfunction) ทำให้เกิดความผิดปกติของการทำงานของหลอดเลือด (Vascular Dysfunction) ร่วมกับการทำงานของระบบประสาทที่ควบคุมบกพร่องซึ่งอาจมาจากภาวะความผิดปกติของระบบประสาทด้วย (Neurological Disorders) เช่น ความผิดปกติจากการควบคุมทางระบบประสาทส่วนกลาง (Central Control) และเฉพาะที่ (Local Control) ซึ่งจะอยู่ภายใต้อิทธิพลของ Testosterone การรักษาคือการทำให้ Endothelial Cells ทำงานได้ดีขึ้นโดยยา Cialil, Sindenafil, Viagra หรือ PDE-5 Inhibitor ซึ่งให้ผลการรักษาดีมากแต่ก่ออาการไม่พึงประสงค์ในผู้ที่มีปัญหาระบบหัวใจและหลอดเลือด ปัจจุบันพบว่าในผู้ป่วยบางกลุ่มไม่ตอบสนองต่อยาเหล่านี้ นอกจากนี้ยังมีการรักษาด้วย PGE1 Intracavernosal Injection Therapy เพื่อกระตุ้นการทำงานของ Endothelial Function และ Hormone Replacement Therapy ในกรณีที่มีระดับ Testosterone ต่ำกว่าปกติ ซึ่งจะต้องมีการวัดระดับฮอร์โมนในเลือด รวมทั้ง Lipid Profile และ PSA (Prostate-Specific Antigen Test)

การรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศด้วยสเต็มเซลล์

Stem Cell Therapy จึงเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะทำให้การรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนั้นมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยสเต็มเซลล์ไปกระตุ้นการทำงานของ Endothelial Cells กลับมาเป็นปกติได้ ปัจจุบันมีงานวิจัยทางคลินิกจำนวนมากที่ใช้สเต็มเซลล์ในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศพบว่ามีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพดี ในปัจจุบันมีข้อมูลว่าทั้ง Embryonic Stem Cells (ESCs) และ Adult Stem Cells (ASCs) เช่น Mesenchymal Stem Cells จากเนื้อเยื่อไขมัน ไขกระดูก และสายสะดือ เป็นเซลล์ที่จะมีการพัฒนาไปเป็นเนื้อเยื่อชนิดต่างๆ ได้ โดยไม่มีต่อต้านเนื้อเยื่อ เมื่อปลูกถ่ายเข้าไปในเนื้อเยื่อที่มีสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม สเต็มเซลล์เหล่านี้มีสามารถพัฒนาเปลี่ยนไปเป็นเซลล์หรือเนื้อเยื่อที่เราต้องการได้ สามารถนำมารักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ ด้วยคุณสมบัติของเซลล์ที่สามารถหลั่ง Cytokines และ Growth Factors ชนิดต่างๆ โดยเฉพาะ Vascular Endothelial Growth Factor สามารถกระตุ้นการทำงานของ Endothelial Cells และกระตุ้นให้มีการสร้างหลอดเลือดใหม่ (Vasculogenesis) ทำให้เลือดมาเลี้ยงอวัยวะเพศชายได้มากขึ้น ส่งผลทำให้การทำงานของหลอดเลือดและระบบประสาทบริเวณอวัยวะเพศดีขึ้น การทำงานของอวัยวะเพศกลับมาเป็นปกติดังเดิม

รูปที่ 1 ED เป็นอาการที่พบได้ในผู้ชายที่สูงวัยขึ้น ที่ไม่ตอบสนองต่อยา 5 Phosphodieserase Inhibitors (PDE5Is) การรักษาด้วยสเต็มเซลล์เป็นทางเลือกใหม่ที่มีรายงานผลการศึกษาที่แสดงถึงประสิทธิภาพในการรักษาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Alwaal, A et al., 2015)

ข้อดีของการรักษาด้วยสเต็มเซลล์

· ไม่ต้องผ่าตัด สะดวก รวดเร็ว ใช้เวลาในการรักษาน้อย

· ใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าการผ่าตัด

· ไม่ต้องรับประทานยาเป็นจำนวนมากมาก และเป็นระยะเวลานานติดต่อกัน ซึ่งมีผลข้างเคียงต่อหัวใจและหลอดเลือด

· ผลการรักษามีประสิทธิภาพและให้ผลระยะยาว

· โอกาสกลับมาเป็นภาวะเดิมน้อยมาก หากทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างถูกต้อง

ผลการรักษาด้วยสเต็มเซลล์: ผลการรักษาที่เริ่มชัดเจน ประมาณ 1 เดือน และค่อยๆ ดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป หลังฉีดจะมีอาการบวมแดงช้ำเล็กน้อย เป็นปกติที่อาจเกิดขึ้นได้

References

1. Bahk JY, Jung JH, Han H, Min SK, Lee YS. (2010)Treatment of Diabetic Impotence with Umbilical Cord Blood Stem Cell Intracavernosal Transplant: Preliminary Report of 7 Cases. Experimental and Clinical Transplantation 2: 150-160

2. Abdel Aziz MT, EI-Haggar S, Mostafa T, Atta H, Fouad H, Mahfouz S, et al. (2010) Effect of Mesenchymal stem cell penile transportation on erectile signaling of aged rats. Andrologia 42: 187-92

3. Zhang H, Alberson M, Jin G. (2012) Stem cell: novel players in the treatment of erectile dysfunction. Asian J Androl 14, 145-55.

4. Lin CS. (2014) Advances in stem cell therapy for erectile dysfunction. Advances in Andrology Article ID 140618, 20 pages.

PRP (Platelet Rich Plasma) Treatment

Platelet-Rich Plasma (PRP) เป็นนวัตกรรมใหม่ทางด้านการแพทย์ที่มีการนำ PRP ไปประยุกต์ใช้ทางคลินิกร่วมกับ สเต็มเซลล์ในด้านทันตกรรม และการบาดเจ็บของข้อและกระดูก ทางด้านผิวหนังมีรายงายวิจัยพบว่า PRP สามารถกระตุ้นการสร้างเซลล์และเนื้อเยื่อได้ดี ทำให้การหายของแผลดีขึ้น ปัจจุบันได้มีการประยุกต์ใช้ในด้านผิวพรรณและความงามกันอย่างแพร่หลาย โดยที่นำเลือดของผู้ที่มีปัญหาด้านผิวพรรณมาทำการปั่นแยกเอาชั้นที่มีเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ออกจากเม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดเลือดขาว แล้วนำฉีดกลับเข้าไปในตำแหน่งต่างๆ ที่มีปัญหา การประยุกต์ใช้ PRP บริเวณผิวหน้าหน้า มีหลักการดังนี้ คือ การปั่นแยก PRP จากเลือดแล้วนำมากระตุ้นด้วย Calcium Chloride ทำให้เซลล์เกล็ดเลือดนั้นหลั่งสาร Growth Factors PDGF, VEGF, EGF และ TGFb ออกมาจำนวนมาก เมื่อนำไปฉีดในตำแหน่งต่างๆ เช่น ใบหน้า Growth Factors เหล่านี้จะไปออกฤทธิ์กระตุ้นการแบ่งตัวของเซลล์ต่างๆ ในชั้นผิวหนัง เช่น Fibroblast, Epithelial Cells, Keratinocyte ในชั้นผิวหนังต่างๆ ทำให้การแบ่งตัวของเซลล์มากขึ้น เพิ่มจำนวนมากขึ้น ส่งผลให้ผิวหน้าแน่นตึงกระชับ สดใส และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและหลอดเลือดฝอย ทำให้มีเลือดมาเลี้ยงบริเวณใบหน้ามากขึ้น ทำให้ผิวหน้ามีออกซิเจนมากขึ้น ทำให้ใบหน้าสดใสมีเลือดฝาด

รูปที่ 1 กลไกการออกฤทธิ์ของ PRP การเร่งการหายของบาดแผลและกระบวนการสร้างเนื้อเยื่อที่ตำแหน่งบาดเจ็บด้วย จากเกล็ดเลือดที่ถูกกระตุ้นให้หลั่ง Growth Factors ชนิดต่างๆ ออกมา Abbreviations: PRP, Platelet-Rich Plasma; PDGF, Platelet Derived Growth Factor; VEGF, Vascular Endothelial Growth Factor; EGF, Epidermal Growth Factor.

รูปที่ 2 กลไกการหายของบาดแผลและการสร้างเนื้อเยื่อด้วย Growth Factors จากเกล็ดเลือด

การเตรียม PRP

1. เจาะเลือด 10-20 ml

2. ปั่นแยกเลือด

3. คัดแยก PRP

4. กระตุ้นเกล็ดเลือดด้วย CaCl2

5. นำไปฉีดที่ผิวหนังตำแหน่งที่ต้องการ

ผลการทำ PRP treatment

1. กระตุ้นสร้างเซลล์ที่บาดเจ็บและเสื่อม กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง ทำให้ผิวหน้าเต่งตึงแน่นกระชับ เรียบเนียน ลดรอยเหี่ยวย่น

2. ลดการสร้างเม็ดสีผิว ลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ทำให้ใบหน้ากระจ่างใสขึ้นได้อย่างเป็นธรรมชาติ

3. ลดอาการอักเสบของผิวได้ ทำให้เซลล์ผิวแข็งแรง

4. ช่วยซ่อมแซมผิวเสียที่ถูกทำลายจากมลภาวะ ทั้งแสงแดด ความร้อน ฝุ่นละออง รวมทั้งความเครียด ซึ่งทำให้เกิดปัญหาผิวต่างๆ PRP สามารถแก้ไขปัญหาให้ผิวกลับมาแข็งแรงขึ้นได้

5. ช่วยผิวหน้าให้กระชับมากขึ้น จึงทำให้ผิวหน้าละเอียดและเรียบเนียน

ข้อดีการทำ PRP Treatment

• มีความปลอดภัยสูง เพราะเป็นสารที่มาจากร่างกายของเราเอง

• เวลาในการทำ Treatment สั้น โดยปกติจะใช้เวลาเพียง 30 นาที ก็สามารถสกัดกระตุ้นเกล็ดเลือด และฉีดกลับเข้าสู่ผิวได้แล้ว

References

1. Hulimavu S., Reddy R., Reddy R., Babu NC., Ashok GN. (2018) Stem-cell therapy and platelet-rich plasma in regenerative medicines: A review on pros and cons of the technologies. J Oral Maxillofac Pathol. 22(3): 367–374. doi: 10.4103/jomfp.JOMFP_93_18

2. Badis D and Omar B. (2018) The effectiveness of platelet-rich plasma on the skin wound healing process: A comparativeexperimental study in sheep. Vet World. 11(6): 800–808. doi: 10.14202/vetworld.2018.800-808

3. Fernandes G and Yang S (2016) Application of platelet-rich plasma with stem cells in bone and periodontal tissue engineering. Bone Res. 4: 16036. Published online 2016 Dec 13. doi: 10.1038/boneres.2016.36

4. Fioravanti C., Frustaci I., Armellin E., Condo R., Arcuri C.,Cerroni L. (2016) Autologous blood preparations rich in platelets, fibrin and growth factors. Oral Implantol (Rome) 8(4): 96–113. doi: 10.11138/orl/2015.8.4.096

5. Xuetao X, Changqing Z, Rocky ST. (2014) Biology of platelet-rich plasma and its clinical application in cartilage repair. Arthritis Res Ther 16(1): 204. doi: 10.1186/ar4493

6. Pirvu TN., Schroeder JE., Peroglio M., Verrier S., Kaplan L., Richards RG., Alini M., Grad S. (2014) Platelet-rich plasma induces annulus fibrosus cell proliferation and matrix production. Eur Spine J. 23(4): 745–753. Published online 2014 Jan 28. doi: 10.1007/s00586-014-3198-x